อิ่ม!
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกอิ่ม และทึ่งในความพยายามของชายหนุ่มชาวเกาหลีคนนี้จริงๆ
ไม่ง่ายนักที่คนเราจะรู้ว่า ตนเองถนัดอะไรและฝันอยากจะทำอะไรกันแน่ หลายคนเสียเวลาไปกับการทำงานรับเงินเดือน แต่ไม่กล้าออกมาลุย บางครั้งความมั่นคง ที่มีเงินแน่ๆออกทุกเดือน ทำให้ไม่กล้าเสี่ยง แต่เมื่อโดนรุ่นพี่ ขโมยงานที่ตนเองอดหลับอดนอนเตรียมซะดิบดี เอาไปพรีเซ็นต์เฉยเลย ก็เพียงพอที่จะทำให้ “อียองสอก” ตัดสินใจลาออก แล้วชีวิตก็ผกผัน เมื่อระหว่างนั่งคิดอยู่ริมแม่น้ำฮัน เขาเห็นรถเร่ขายปลาหมึกแห้งท่าทางน่ากิน แต่พ่อค้าไม่ค่อยสนใจขายเท่าไร จึงลองไปขอซื้อมาลองขายดู
ด้วยความขี้เล่นและวิธีขายที่แปลก ทำให้ขายหมดใน 30 นาที ได้เงินมาสี่หมื่นวอน(ประมาณ 1,200 บาท) จากที่ซื้อมาสองหมื่นวอน เขาเริ่มเห็นโอกาส
“แบบนี้ สนุกดีเนอะ”
เขารู้สึกชอบงานขาย แต่เส้นทางการเป็นนักการขายไม่ง่ายย่างที่คิด
เริ่มจากการกู้เงินมาซื้อรถ ตระเวนขายผัก เพื่อประหยัดค่าเช่าที่ แต่ก็เกิดปัญหา ทำให้ไม่มีลูกค้าประจำ
แถมบางทีก็โดนตำรวจยึดรถ เพราะจอดขายในที่ห้าม
เขาถูกซ้อมหลายครั้ง เพราะวิธีการเลือกซื้อผลไม้ ที่จะเฉาะ ชิม ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเขาจะซื้อเฉพาะที่อร่อยจริงๆ
หากวันนั้นไม่มีแอ็ปเปิ้ลอร่อย เขาก็ไม่ซื้อ (คล้ายกับวิธีคิดของ ซูซูกิ ซีอีโอของเซเว่นญี่ปุ่น ที่บอกว่าผู้ค้าปลีกต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนการจัดซื้อของลูกค้า)
บางครั้งร่างกายก็เหนื่อยล้าเกินไป ที่ต้องตื่นตี 2 ครึ่งทุกวัน เพื่อไปเลือกซื้อผลไม้ และกว่าร้านจะปิดก็เลย 1 ทุ่ม
ระหว่างที่เร่ขายผัก เขามีรายได้ปีละ 1 ออกวอน (ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท)
แต่เดี๋ยวนี้อียองสอก มีร้านขายผัก 8 สาขา
เป็นร้านค้าปลีกที่มียอดขายต่อตารางเมตร สูงที่สุดในเกาหลี
ด้วยคอนเซ็ปร้าน ที่เน้นขายเฉพาะของดี ของอร่อย และต้องสดใหม่ ไม่มีการเก็บค้างคืน
จึงเขียนป้ายหน้าร้านว่า “ความหนุ่มสาวอยู่ที่นี่…ทั้งหมดจากธรรมชาติ”
แต่ลูกค้ามักเรียกว่า “ร้านขายผักของหนุ่มโสด”
แต่เขายังตื่นตี 2 ครึ่งเพื่อไปเลือกซื้อผัก ผลไม้ ด้วยตัวเอง
เขาทำในที่สิ่งที่ท้าทาย ที่ผู้ค้าปลีกอื่นไม่สามารถทำได้ นั่นคือ Stock 0% เพราะร้านขายผักนี้ขายสินค้าหมดทุกวัน ลูกค้าที่มาซื้อวันละ 1 พันคน กว่าครึ่งไม่ใช่เป็นคนในละแวกนั้น แต่มาไกลจากต่างเมือง บางทีเป็นลูกค้าจากญี่ปุ่นลงทุนมาซื้อถึงที่นี่
น่าทึ่งมั๊ยครับ!
แต่ถ้าอ่านทั้งเล่มอย่างละเอียด จะรู้สึกทึ่งกว่านี้อีก ตอนนี้ร้านของอียองสอก
กลายเป็นที่ทัศนศึกษาของเหล่านักศึกษาด้านการตลาดไปซะแล้ว และบริษัทใหญ่ๆก็พาทีมขายมาดูงานที่นี่
เขาเองก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นอาจารย์นอกห้องเรียน
ครับ! อ่านเล่มนี้จบแล้ว ทำให้ดีกรีความอยากไปเที่ยวเกาหลีพุ่งปรี๊ดเลย อยากไปเห็นของจริง เห็นทีต้องรีบเก็บตังค์ซะแล้ว